Generation ที่ 4 (รุ่นปี พ.ศ. 2533-2536) ของ ฮอนด้า_แอคคอร์ด

ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมที่ 4

โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 ปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2533 - พ.ศ. 2536 เปิดตัวครั้งแรกในปี1989ใช้พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับฮอนด้า แอสคอต, ฮอนด้า Vigor และฮอนด้า อินสไปร์ที่เน้นตลาดบนมากกว่าพี่น้องร่วมสายพันธ์โฉมนี้นับว่าเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในไทยและในอเมริกายังเป็นรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดถึง3ปีซ้อนอีกด้วย ตลาดรถในประเทศไทย เรียกว่ารุ่นตาเพชร เนื่องจากไฟหน้าเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์เมื่อมองแล้วมีลักษณะเหมือนเพชรที่แวววาวจึงเรียกว่าตาเพชร โดยโฉมนี้ในต่างประเทศมีเครื่องยนต์1800cc 2000cc และ2200cc125แรงม้า 130แรงม้าและ140แรงม้า

ในไทยมีเฉพาะเครื่องยนต์ 2000cc เท่านั้น มีเซ็นทรัลล็อก พวงมาลัยพาวเวอร์ เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ

  • LX / EX เป็นรุ่นต่ำสุด เครื่องยนต์ 2000cc คาร์บิวเรเตอร์ 112 แรงม้า เบาะหนังเทียม (ไวนิล) กระจกข้างและมือจับเปิดประตูนอกรถสีดำ ล้อกระทะเหล็ก 14 นิ้วพร้อมฝาครอบ ยางขนาด 185/70R14 โดย LX จะเป็นเกียร์ธรรมดาของรุ่นต่ำสุด และ EX เป็นเกียร์อัตโนมัติของรุ่นต่ำสุด โดยไม่มีความแตกต่างของออปชั่นระหว่างรุ่น LX กับ EX
  • LXi / EXi เป็นรุ่นท็อป เครื่องยนต์ 2000cc หัวฉีด 135 แรงม้า เบาะกำมะหยี่ กระจกข้างปรับด้วยไฟฟ้าสีเดียวกับตัวรถ มือจับเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ ล้อแม็กนีเซียมอัลลอย 15 นิ้ว ยางขนาด 195/60R15 โดย LXi จะเป็นเกียร์ธรรมดาของรุ่นท็อป และ EXi จะเป็นเกียร์อัตโนมัติของรุ่นท็อป (มาหลังการเปิดตัวประมาณ 1 ปี) โดยไม่มีความแตกต่างของออปชั่นระหว่างรุ่น LXi กับ EXi

เปิดตัวในไทยในปี 2533 โดยช่วงแรกจะมีเฉพาะ LX / EX กับ LXi เท่านั้น ส่วน EXi ตามมาในปี 2534 ในช่วงแรกนี้ไฟท้ายจะเป็นแผงยาวจรดแผงป้ายทะเบียน จึงเรียกกันว่า ตาเพชรไฟยาว รุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกเมื่อปี 2535 โดยเปลี่ยนไฟเล้ยวใหม่ ไฟท้ายใหม่ที่กลับไฟเบรกมาอยู่ข้างบนไฟเลี้ยวนักเลงรถเรียกรุ่นนี้ว่า ตาเพชรไฟสั้น โดยขายจนถึงปี 2537 รุ่นนี้ไม่มีตัวถัง3ประตูแล้ว โดยตัวถัง5ประตูขายในยุโรปชื่อ Aerodeck

จากโฉมก่อนหน้าจนถึงโฉมนี้ คู่แข่งโดยตรงที่สำคัญของแอคคอร์ดในตลาดรถขนาดเล็กกึ่งกลางของประเทศไทย (หรือเรียกว่า C-D Segment) คือ โตโยต้า โคโรลล่า GTi ที่ขยับจากรถขนาดเล็กมาก (Subcompact) เป็นรถขนาดเล็ก (Compact) เป็นครั้งแรกพร้อมเครื่องยนต์ 4A-GE 1,600 ซีซี กับ โคโรน่าที่มีเครื่องยนต์ 3S-FE 2,000 ซีซี หัวฉีด EFI มิตซูบิชิ กาแลนต์ ที่มีเครื่องยนต์ 4G63 ที่ประจำการในมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีโวลูชัน, มาสด้า 626 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์FE-DOHC, นิสสัน เซฟิโร่ที่มีเครื่องยนต์ 6 สูบ ทวินแคม24วาล์วที่ประจำการในนิสสัน สกายไลน์ GT-R เจ้าของรางวัลชนะเลิศซูเปอร์จีที ถึง 2 ปีติดต่อกัน และ นิสสัน บลูเบิร์ด แอทเทซ่า ที่มีภายใน Ergo Design ถึงแม้แอคคอร์ดจะยังไม่มีเครื่องยนต์ทวินแคม16และ24วาล์วเหมือนคู่แข่ง แต่ในทางปฏิบัติยังถือกันว่ายังเป็นรถขนาดเล็กเช่นเดียวกับโคโรน่าและบลูเบิร์ด แอทเทซ่า

เวลาผ่านไป ยอดขายของแอคคอร์ดในสหรัฐอเมริกาลดลงอีกครั้ง เนื่องด้วยช่วงนั้นบริษัทรถยนต์หลายค่ายไม่ว่าจะเป็น ไครสเลอร์, เจเนรัลมอเตอร์, โตโยต้า, มิตซูบิชิ มอเตอร์ส, นิสสัน, ฮุนได, และ มาสด้า ต่างได้เปิดตัวรถยนต์ขนาดกลางรุ่นใหม่ที่ขยายขนาดตัวถังของรถ เครื่องยนต์ และเพิ่มออปชั่นและเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปเป็นจำนวนมาก ทางฮอนด้า จึงจำเป็นต้องเปิดตัว แอคคอร์ด โฉมที่ 5 ออกมา แต่ก่อนที่จะเปิดตัว แอคคอร์ด โฉมที่ 5 ทางฮอนด้าได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชิ้นสุดท้ายให้กับ แอคคอร์ด โฉมที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา โดยนำภาพยนตร์โฆษณาของค่ายรถคู่แข่งที่แพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศในขณะนั้นรวม11เรื่องที่มีคำพูดของผู้บรรยายภาพยนตร์โฆษณาของค่ายคู่แข่ง, แบรนด์แอมบาสเดอร์ของค่ายคู่แข่ง, ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ท้องถิ่นของค่ายคู่แข่ง, เจ้าของรถของค่ายคู่แข่ง, รวมทั้งวิศวกรและพนักงานของค่ายรถคู่แข่ง ที่จงใจโจมตี ฮอนด้า แอคคอร์ด มาล้อเลียน ก่อนที่ภาพยนตร์โฆษณาจะจบลงที่คำพูดของผู้บรรยายโฆษณาว่าให้รอแอคคอร์ด โฉมที่ 5 เปิดตัวเสียก่อน แต่ถ้าหากรอไม่ได้ก็รีบซื้อแอคคอร์ด โฉมที่ 4 จากตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าที่ร่วมรายการก่อนที่สต๊อกรถจะหมด

ใกล้เคียง

แหล่งที่มา

WikiPedia: ฮอนด้า_แอคคอร์ด http://www.cambridgecentrehonda.com/completely-red... http://news.honda.com/newsandviews/article.aspx?id... http://www.adandp.media/articles/honda-accord-the-... http://www.honda.com.my/corporate/factory_faciliti... http://www.topgear.com.ph/features/lifestyle/human... http://www.honda.co.th/accord http://www.dede.go.th/dede/images/stories/bioethan... https://www.fool.com/investing/2017/10/18/honda-sh... https://automobiles.honda.com/sensing https://www4.j-platpat.inpit.go.jp/eng/ishou/iskt_...